ในการทำธุรกิจ “ต้นทุน” ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นตัวกำหนดว่าจะทำให้เรามีกำไรมากน้อยแค่ไหน ถ้าดูแลไม่ดีก็จะขาดทุนเอาง่ายๆ การดูแล “ต้นทุน” ไม่ใช่คิดแต่จะหาวิธีที่ลดเท่านั้น แต่ต้องลดต้นทุนให้มากที่สุด โดยไม่ส่งผลด้านลบ ต่อคุณภาพของสินค้าและบริการ หรือวิน-วิน คือชนะไปด้วยกัน

หากลด “ต้นทุน” ได้สัก 10%...

นั่นหมายความว่าเราจะมีกำไรเพิ่มทันที 10% ดังนั้น การลด “ต้นทุน” จึงมีความสำคัญในการทำธุรกิจอย่างมาก แต่จะมีวิธีการอย่างไรที่จะ ลด “ต้นทุน” โดยทั่วไปจะใช้ระบบ “Lean Management” หรือการบริหารจัดการแบบไร้ไขมัน นั่นคือการลดความสิ้นเปลืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของวัตถุดิบแรงงานและอื่นๆ

“Lean Management” มีอยู่ 8 ข้อที่ต้องลด นั่นคือ...

1.ลดเวลารอคอย...เป็นการรอคอยจากการที่พนักงานต้องหยุดทำงาน เพราะต้องรอวัตถุดิบหรือเครื่องจักรขัดข้อง

2.ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น...การทำงานหลายขั้นตอนจะทำให้เสียเวลาและสิ้นเปลืองทำให้งานล่าช้า

3.ลดการเคลื่อนไหว...การวางอุปกรณ์หรือเครื่องใช้สำนักงานที่อยู่ไกล ต้องเสียเวลาเดินไปหยิบทำให้สูญเสียพลังงาน และเกิดความล่าช้าในการทำงาน

4.ลดความผิดพลาด...หากทำงานผิดพลาดจะต้องเสียเวลาทำซ้ำ อีกทั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

5.ลดขั้นตอนขนส่ง...การขนส่งเป็นต้นทุนสำคัญ ต้องหาเส้นทางการขนส่งวัตถุดิบระยะใกล้ และสะดวกที่สุด เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน

6.ลดสต็อกสินค้า...ต้องบริหารสต็อกสินค้าหรือวัตถุดิบให้เหมาะสม หากเก็บสต็อกมากเกินไป จะมีภาระค่าบริหารจัดการเพิ่มตาม

7.ลดการผลิต...จะต้องผลิตให้พอดี หากผลิตมากเกินไป จะต้องเสียพื้นที่ในการจัดเก็บ ต้นทุนก็จะจมเช่นกัน

8.ลดความขัดแย้ง...ต้องให้พนักงานรู้จักหน้าที่ของตนเอง ไม่ทำงานซ้ำซ้อนกัน จะทำให้เสียเวลา และเกิดความขัดแย้งกันได้

การลดต้นทุนไม่ใช่เป็นหน้าที่ของผู้บริหารเท่านั้น...

พนักงานหรือลูกจ้างก็มีส่วนสำคัญอย่างมาก จะต้องให้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เพราะพนักงานหรือลูกจ้างที่อยู่ใกล้ชิดกับชิ้นงาน จะรู้รายละเอียดว่าควรมีวิธีลดต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง อีกวิธีที่จะช่วยลดต้นทุนนั่นคือการเลือกซื้ออุปกรณ์จะต้องพิจารณาเปรียบเทียบ ให้ดีว่าใช้แบบไหนถึงประหยัดกว่ากัน เครื่องเป่ามือพลังลม “Jet Towel Mini” ของ “มิตซูบิชิ อีเล็คทริค” เป็นอีกคำตอบหนึ่งที่จะช่วยลด “ต้นทุน”ของคุณได้ เพราะประหยัดค่าไฟมากกว่าเครื่องเป่ามือลมร้อน ที่จะเสียค่าไฟเฉลี่ย 4, 000 บาท/ปี แต่เครื่องเป่ามือพลังลม “Jet Towel Mini” จะเสียค่าไฟเฉลี่ยแค่ 300 บาท/ปีเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายเรื่องกระดาษชำระ รวมทั้งค่าถุงดำที่ไว้ใส่กระดาษชำระที่ใช้แล้ว ที่จะมีค่าใช้จ่ายรวมเฉลี่ยถึง 15,000บาท/ปี เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ จะเห็นว่า เครื่องเป่ามือพลังลม “Jet Towel Mini” ช่วยลดต้นทุนให้ธุรกิจในระยะยาวนั่นหมายความว่า จะทำให้มีกำไรจะมีมากขึ้น


JET Towel Mini
เครื่องเป่ามือพลังลม
สุดยอดนวัตกรรมจาก มิตซูบิชิ อีเล็คทริค
ประหยัด คุ้มค่า ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้เราลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายลงได้อีกมาก
นั่นหมายความว่า จะทำให้เรามีกำไรเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย
ติดตามดูรายละเอียดของเครื่องเป่ามือพลังลม Jet Towel Mini
ได้ ที่นี่