มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เดินหน้ารุกตลาดประเทศลาวต่อเนื่อง
มิตซูบิชิ อีเล็คทริค เดินหน้ารุกตลาดประเทศลาวต่อเนื่อง
บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีความเย็นต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จัดงานประชุมตัวแทนจำหน่ายมิตซูบิชิ อีเล็คทริค ประเทศลาว เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่และแผนการตลาดในปี 2017
นายอนันต์  บรรเจิดธรรม  กรรมการและผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการขาย บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตลาด AEC ในนครหลวงเวียงจันทน์ โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ผ่านบริษัท พีแอนด์พี อินเตอร์ เทรดดิ้ง จำกัด และ หจก.โอเดียนเครื่องเย็น ซึ่งเป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากบริษัทฯ นั้น ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างดี ผู้บริโภคในประเทศลาวให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์และรู้จักแบรนด์มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ยอดขายในปีงบประมาณ 2016 (1 เม.ย.2016 – 31 มี.ค. 2017) เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 100 ล้านบาท ได้อย่างแน่นอน
และในปีนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารุกตลาดในประเทศลาวผ่านกลยุทธ์ที่หลากหลาย ทั้งการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ เครื่องปรับอากาศดีไซน์พิเศษฉลองครบรอบ 45 ปีของบริษัทฯ รุ่น LN Series สมบูรณ์แบบด้วยการผสานเทคโนโลยีล่าสุด “3D Move-eye Human Sensor” เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ส่งลมเย็นได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบ Variable Air Flow & Wide Air Flow กระจายลมเย็นแยกทิศทางอิสระ สามารถส่งลมเย็นอย่างตรงจุดพร้อมๆ กันแม้จะอยู่คนละมุมห้อง พร้อมผสานเทคโนโลยี “Dual Barrier Coating” ลดการเกาะติดของฝุ่น ละอองน้ำมัน และกลิ่นอับชื้น ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานเต็มประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน เป็นต้น  
          นอกจากนี้ยังมีแคมเปญโฆษณาและกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านทุกช่องทาง อาทิ ภาพยนตร์โฆษณาฉลองครบรอบ 45 ปี Cooling is Happiness, ภาพยนตร์โฆษณาเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น พัดลม ซึ่งผู้บริโภคในประเทศลาวสามารถรับชมได้พร้อมกับประเทศไทย ตลอดจนสื่อออนไลน์สื่อ Out of home ต่างๆ ในประเทศลาวรวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการขายผ่านงานแฟร์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์มิตซูบิชิ อีเล็คทริค ในประเทศลาวได้อย่างแน่นอนสำหรับปีงบประมาณ 2017 (1 เม.ย.2017 – 31 มี.ค. 2018) บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ 120 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 20%” นายอนันต์กล่าว